วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ผักชี ผักแต่งกลิ่นและเครื่องเคียง

ผักชี ผักแต่งกลิ่นและเครื่องเคียง

โดย  | วันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 | ในหมวด พืชผัก - ไม่มีความคิดเห็น
pagchee
ผักที่ใช้บริโภคส่วนของใบและก้านใบเป็นผักสด หรือใช้รับประทานกับสาคูไส้หมู ต้นและรากใช้เป็นส่วนประกอบอาหารได้หลายอย่าง ใช้ต้มเป็นน้ำซุปหรือน้ำก๋วยเตี๋ยวทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติดี เมล็ดใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องแกงของเครื่องแกงเผ็ด นำมาบดคลุกกับเนื้อวัวสดใช้ทำเนื้อสวรรค์ที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน กลิ่นหอมของเมล็ด ราก ใบ และต้นของผักชีสามารถใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coriandrum sativum L.
ชื่อสามัญ : Coriander
วงศ์ : Umbelliferae
ชื่ออื่น : ผักหอม (นครพนม) ผักหอมน้อย (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ผักหอมป้อม ผักหอมผอม (ภาคเหนือ) ยำแย้ (กระบี่)
pagcheeplang
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ล้มลุก ที่มีลำต้นตั้งตรง ภายในจะกลวง และมีกิ่งก้านที่เล็ก ไม่มีขน มีรากแก้วสั้น แต่รากฝอยจะมีมาก ซึ่งลำต้นนี้จะสูงประมาณ 8-15 นิ้ว ลำต้นสีเขียวแต่ถ้าแก่จัดจะออกเสียเขียวอมน้ำตาล ใบ ลักษณะการออกของใบจะเรียงคล้ายขนนก แต่อยู่ในรูปทรงพัด ซึ่งใบที่โคนต้นนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าที่ปลายต้น เพราะส่วนมากที่ปลายต้นใบจะเป็นเส้นฝอย มีสีเขียวสด ดอก ออกเป็นช่อ ตรงส่วนยอดของต้น ดอกนั้นมีขนาดเล็ก มีอยู่ 5 กลีบสีขาวหรือชมพูอ่อนๆ ผล จะติดผลในฤดูหนาว ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมโตประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ตรงปลายผลจะแยกออกเป็น 2 แฉก ตาวผิวจะมีเส้นคลื่นอยู่ 10 เส้น
pagcheedok
ผักชีเป็นพืชผักสมุนไพร มักลิ่นหอม อายุสั้นประมาณ 40-60 วัน สามารถขึ้นได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำ ที่ดี ปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ผักชีเป็นผักที่ใช้ใบ ก้านใบและลำต้นบริโภค เป็นผักเครื่องเคียงและปรุงแต่งอาหาร ให้มีรสชาติ และกลิ่นหอมน่ารับประทาน
  • ใบผักชี มีสรรพคุณในทางเป็นสมุนไพรคือ จะใชัในการช่วยย่อย บำรุงกระเพาะ เจริญอาหาร ขับลมขับพิษ แก้หวัด ขับเหงื่อ ช่วยย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด แก้โรคหัด พอกทาแก้ผื่นคัน แก้ไฟลามทุ่ง แก้ตับอักเสบ ลดการปวดบวมข้อ ต้มดื่มแก้ไอ แก้หวัด อาหารเป็นพิษ แก้สะอึก กระตุ้นการทำงานของเลือดพลาสมา และกล้ามเนื้อ มีสารต้านมะเร็ง ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และไข่ของแมลง จึงใช้ถนอมอาหาร
  • ลูกผักชี แก้พิษตานซาง แก้กระหายน้ำ แก้ลมวิงเวียน แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด แก้ริดสีดวงทวาร แก้ปวดฟัน ช่วยย่อยอาหาร ขับลม บำรุงธาตุ ต้มน้ำอาบเมื่อเป็นหัด แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ใช้ผลเตรียมน้ำมันผักชีซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหย หากถูกผิวนานๆอาจระคายเคืองได้
  • ราก เป็นกระสายยา กระทุ้งพิษไข้หัว เหือดหัด อีสุกอีใส อีดำอีแดง
    กากลูกผักชี (หมายถึงลูกผักชีที่สกัดเอาน้ำมันออกแล้ว) มีโปรตีน 11-17 % ไขมัน 11-20% จึงเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ดี ผงลูกผักชีบดใช้โรยแผลกันเชื้อฝีหนองได้ นอกจากนี้แล้ว ลูกผักชียังใช้เป็นเครื่องเทศผสมเครื่องแกง ผักดอง ไส้กรอก แต่งกลิ่นอาหารต่างๆโดยเฉพาะเหล้ายิน แต่งกลิ่นช็อกโกแลต โกโก้ ได้
pagcheeton
คุณค่าอาหาร
ผักชี 100 กรัม ให้พลังงาน 32 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
  • โซเดียม 45 มิลลิกรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม
  • เส้นใย 3 กรัม
  • โปรตีน 2 กรัม
  • แคลเซียม 91 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 37 มิลลิกรัม
pagcheemaled
การเตรียมดินและการปลูก
  1. ใช้จอบขุดดินเตรียมแปลงลึก 1 หน้าจอบ (15 – 20 ซม.)
  2. ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักที่สลายแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากับหน้าดิน ย่อยดินให้ละเอียดแล้วรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง
  3. นำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำไว้ 1 คืน
  4. ควรนำเมล็ดที่แช่น้ำแล้วมานวดด้วยขวดน้ำ ให้เปลือกหุ้มเมล็ดแตก
  5. นำเมล็ดลง หว่านลงบนแปลงที่เตรียมไว้
  6. คลุมด้วยฟางข้าว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของหน้าดิน และรดน้ำอีกครั้ง
  7. การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 กำมือ (2-3 ช้อนแกง) หว่านทุกๆ 15 วัน ต่อขนาดพื้นที่ปลูก 1 ตารางเมตร และรดน้ำตามทันที
  8. การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
  9. การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชอย่าให้รบกวน และลุกลาม โดยเฉพาะช่วงแรกหลังหยอดเมล็ด
  10. การกำจัดวัชพืชทำโดยใช้มือถอน
  11. เนื่องจากผักชีเป็นพืชผักที่ใช้บริโภคได้ทุกส่วน ก่อนถอนควร รดน้ำให้ดินชุ่ม และควรถอนทั้งต้นและราก
พันธุ์ผักชีที่นิยมปลูกทั่วไปในประเทศไทย ได้แก่ พันธุ์สิงคโปร์ พันธุ์สิงคโปร์เมล็ดดำ และพันธุ์ไต้หวัน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามแหล่งขายเมล็ดพันธุ์ผักทั่วไป
pagcheekla
ผักชีเป็นผักที่ต้องการน้ำมากแต่ไม่ชอบน้ำขัง ดังนั้น ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น อย่าให้น้ำมากจนโชกเกินไป เพราะผักชีถ้าถูกน้ำหรือฝนมากๆ มักจะเน่าง่าย สำหรับวัชพืชที่ขึ้นในระยะแรกควรรีบกำจัดโดยเร็ว โดยใช้มือถอน อย่าปล่อยให้ลุกลามเพราะวัชพืชเป็นตัวแย่งน้ำและอาหารจากผักชี
pagchees
ผักชีจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 30-45 วัน เนื่องจากผักชีสามารถใช้ทุกส่วนบริโภค ควรเก็บเกี่ยวโดยการถอนด้วยมือติดทั้งต้นและรากไม่ขาด แต่ก่อนถอนควรรดน้ำบนแปลงให้ดินชุ่มชื้นเสียก่อนเพื่อสะดวกในการถอน เมื่อถอนเสร็จแล้วนำไปล้างดินออก ตกแต่งโดยเด็ดใบเหลืองใบเสียทิ้ง แล้วมัดๆ ละกิโลกรัม นำไปผึ่งลมแล้วบรรจุเข่ง เพื่อให้ผักชีไม่เกิดการเน่าเละขณะขนส่งอันเนื่องมาจากน้ำแฉะเกินไป ผลผลิตผักชีที่ดีต้องมีใบเขียวสม่ำเสมอ ไม่เป็นโรคใบลายหรือใบไหม้ มีรากขาวมาก รากยาวและไม่ขาด
pagcheeplan
ที่มาภาพ : อินเทอร์เน็ต  





วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556




บุรีรัมย์ - ปชช.นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างประเทศ แห่เที่ยวชมความงดงามปราสาท และสัมผัสอากาศหนาวบนเขาพนมรุ้ง ช่วงวันหยุดคึกคักวันละกว่า 5,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติเท่าตัว ขณะอุทยานฯ เตรียมจัดงานอรุณเบิกฟ้าทำบุญตักบาตร และรับพลังแสงอาทิตย์แรกของปีบนปราสาทพนมรุ้ง เสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่
       
      วานนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวขณะนี้ ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ พากันเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมความงดงาม และสัมผัสอากาศหนาวบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ และปราสาทเมืองต่ำ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์กันอย่างคึกคัก เฉลี่ยวันละกว่า 5,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติกว่าหนึ่งเท่าตัว
       
       โดยส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว ญาติมิตร และหมู่คณะ เพื่อพักผ่อน และสัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยว และสัมผัสหนาวบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ คึกคักกันอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลท่องเที่ยว
       
       นอกจากนี้ ทางอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ยังจะร่วมกับอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จัดงาน “อรุณเบิกฟ้า” รับเทศกาลท่องเที่ยวปีใหม่ 2557 โดยมีการจัดงานเคานต์ดาวน์อย่างยิ่งใหญ่ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอ จากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค.2557 ประชาชน นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานจะเดินขึ้นมาบนเขาพนมรุ้งเพื่อมาทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และรับพลังแสงอาทิตย์ของปีบนปราสาทพนมรุ้ง เพื่อเสริมสิริมงคลในแก่ชีวิตในปีพุทธศักราช 2557 ด้วย
       
       นางชุติมา จันทน์เทศ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง กล่าวว่า ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้งได้ร่วมกันอนุรักษ์โบราณสถาน โดยการไม่ขีดข่วน หรือทุบทำลาย หรือกระทำการใดๆ ที่จะสร้างความเสียหายแก่โบราณสถานดังกล่าว ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2557 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เดินทางขึ้นมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ ไม่น้อยกว่าวันละ 10,000 คน

ที่มา:manageronline